พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ; ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ; ทานาธิธัมมะวิธินา ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ; มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง ; โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ; ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ; นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ; ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะสุทารุณันตัง ; เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตวา มุทินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ; อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ; ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง ; อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ; กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะคัพภินียา ; จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนังชะนะกายา มัชเฌ ; สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เตชะยะมังคะลานิ ; สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง ; วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ; ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เตชะยะมังคะลานิ ; นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุทธัง มะหิทธิง ; ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต ; อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ; ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง ; พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ; ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตวา มุนินโท ; ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ; เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา ; โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที ; หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ ; โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.
|
พระจอมมุนี ได้ชนะพญามารผู้นิรมิตแขนมากตั้งพัน ; ถืออาวุธครบมือ ขี่คชสารครีเมขละ พร้อมเสนามาร ; โห่ร้องกึกก้องด้วยธรรมวิธีทานบารมี เป็นต้น ; ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนีได้ชนะอาฬวกยักษ์ผู้มีจิต กระด้าง ; ปราศจากความอดทน มีฤทธิ์พิลึกยิ่ง กว่าพญามารเข้ามาต่อสู้ยิ่งนัก ; จนตลอดรุ่ง ด้วยวิธีทรมานเป็นอันดี คือ พระขันตี ; ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนีได้ชนะช้างตัวประเสริฐชื่อ นาฬาคิรี เป็นช้างเมายิ่งนัก ; แสนที่จะทารุณประดุจไฟป่าและจักราวุธและสายฟ้า ; ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำคือพระเมตตา ; ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนีมีพระหฤทัยไปในที่จะกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ ; ได้ชนะโจรชื่อองคุลีมาล (ผู้มีนิ้วมนุษย์ เป็นพวงมาลัย) แสนร้ายกาจ ; มีฝีมือถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นทาง ๓ โยชน์ ; ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนีได้ชนะความกล่าวร้ายของ นางจิญจมาณวิภา ; ทำอาการประการหนึ่งว่ามีครรภ์ ทำไม้มี สัณฐานอันกลม ให้เป็นประดุจมีท้อง ; ด้วยวิธีสมาธิอันงาม คือความระงับพระ หฤทัยในท่ามกลางหมู่ชน ; ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนี รุ่งเรืองแล้วด้วยประทีป คือ ปัญญา ได้ชนะสัจจกนิครนถ์ ; ผู้มีอัชฌาสัย ในที่จะสละเสียซึ่งความสัตย์ มีใจในที่จะยกถ้อยคำของตนให้สูงดุจยกธง ; เป็นผู้มืดมนยิ่งนัก ด้วยเทศนาญานวิธี คือรู้อัชฌาสัยแล้วตรัสเทศนา ; ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนี โปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส นิมิตกาย ; เป็นนาคราชไปทรมานพญานาคราช ชื่อ นันโทปนันทะผู้มีความรู้ผิด มีฤทธ์ิมาก ; ด้วยวิธีอันให้อุปเท่ส์แห่งฤทธ์แก่พระเถระ ; ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดช แห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; พระจอมมุนี ได้ชนะพรหมผู้มีนามว่า ท้าวผกาผู้มีฤทธิ์ ; อันสำคัญตนว่า เป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณ อันบริสุทธิ์ มีมืออันท้าวภุชงค์ คือ ทิฏฐิที่ตนถือผิด ; รัดรึงไว้แน่นแฟ้นแล้วด้วยวิธีวางยาอัน พิเศษคือเทศนาญาณ ; ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วย เดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ; นรชนใด มีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวด ก็ดี ระลึกก็ดี ; ซึ่งพระพุทธชัยมงคล ๘ คาถา แม้เหล่า นี้ ทุกๆ วัน ; นรชนนั้นจะพึงละเสียได้ ซึ่งอุปัทวันตราย ทั้งหลายมีประการต่างๆเป็นอเนก ; ถึงซึ่งวิโมกสิวาลัย อันเป็นบรมสุขแล.
|